บ้านสไตล์คลาสสิก

บ้านสไตล์คลาสสิก บ้านคลาสสิกที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน หลายๆคนที่กำลังจะสร้างนั้นต้องศึกษาดีๆ เพราะเป็นบ้านที่อาศัยงานฝีมือชั้นสูง สไตล์ตะวันตกที่เน้นความสง่างามของรูปทรง มีความอ่อนช้อยของลวดลายประดับที่ซับซ้อนสวยงาม องค์ประกอบหลักมักมาจากเส้นสายของเถาวัลย์ ใบไม้ ดอกไม้ ขดเรียงตัวต่อเนื่องกัน เน้นการใช้โทนสี ขาว ดำ น้ำตาล ครีม เงิน และทอง

จากมุมมองภายนอก จะมองเห็นความยิ่งใหญ่ของตัวสถาปัตยกรรม ที่มีการดึงองค์ประกอบบางส่วนมาจากงานสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ที่ประกอบไปด้วยเสาโบราณของ สถาปัตยกรรมแบบคลาสสิกที่งดงามเรียงตัวเป็นจังหวะ ซึ่งแบ่งออกเป็น เสาดอริก เสาไอออนิก และ เสาคอรินเทียน ที่รูปแบบการตกแต่งบริเวณหัวเสาจะแตกต่างกัน

บ้านสไตล์คลาสสิก

การตกแต่งสวยๆ ของเราด้วยงาน ปูนปั้นโดยรอบอาคารที่ถูกปั้น แต่งและขัดเกลาอย่างประณีต หลังคานิยมรูปทรงจั่วหรือปั้นหยาที่มุงด้วย กระเบื้องแบบมีรูปลอน อาจมีบางส่วนที่ใช้หลังคารูป โค้งทรงโดม บริเวณโดยรอบบ้านมีการจัดสวนและลานสนามกว้างที่ตกแต่ง ด้วยงานประติมากรรมลอยตัวสไตล์ยุโรป เช่น รูปปั้นเด็กกรีก ม้า บ่อน้ำพุ และแลนด์สเคปที่เป็นระเบียบสวยงาม รั้วส่วนใหญ่จะนิยม ใช้รั้วเหล็กสไตล์ยุโรปที่มี รายละเอียดอ่อนช้อยรับกับตัวบ้านสไตล์คลาสสิก

​สเปซภายในมีความโอ่อ่าอลังการ ด้วยระดับความสูงฝ้าที่มากกว่าปกติ มีการตกแต่งด้วย ของประดับมีราคา เฟอร์นิเจอร์หรูหราอาศัยฝีมือช่าง อันประณีตในการกลึงแกะสลัก ตกแต่งที่บางคนรู้จักกันดีว่า “ชุดเฟอร์นิเจอร์หลุยส์” บุเก้าอี้และโซฟาบุเบาะนุ่มคลุมด้วยผ้าทอ ที่มีให้เลือกตั้งแต่แบบเรียบง่ายไปจน ถึงลวดลายดอกไม้ซับซ้อน บางส่วนจะมีการดึงหมุด

อาทิ ส่วนพนักพิงเก้าอี้ หรือบริเวณหัวเตียง โต๊ะถูกประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ เชิงเทียน และโคมไฟเพิ่มบรรยากาศที่อบอุ่นและสุนทรีย์ แต่ละห้องก็มีความ พิเศษสวยงามไม่แพ้กัน เช่น ห้องน้ำ นิยมใช้อ่างอาบน้ำแบบลอยตัว รวมทั้งอ่างแบบขาสิงห์เพิ่มความสง่างาม อุปกรณ์ประกอบอื่นๆ ในบ้านก็มีรายละเอียดน่าสนใจ เช่น ลูกบิดประตูประดับด้วยลายนูนต่ำ ห่วงเคาะประตูหัวสิงห์ เป็นต้น

พื้นนิยมปูด้วยหินอ่อน กระเบื้องแกรนิโต้ ไม้ รวมทั้งงานหินขัด (เทอร์ราซโซ) ที่วาดลวดลายซับซ้อน บางพื้นที่จะมีการปูทับด้วยพรมทอลายคลาสสิก พรมขนสัตว์หรือหนังสัตว์ แต่งเติมงานปูนปั้นประดับ บนผนังไล่ไปจนถึงฝ้าเพดาน ที่มีโคมไฟขนาดใหญ่ส่องแสง ระยิบระยับห้อยระย้าลง มาจากด้านบน บางบ้านจะมีโถงบันได เวียนขนาดใหญ่เส้นสายโค้งงอนนำสายตาผู้มาเยือน จากชั้นล่างขึ้นไปสู่ด้านบน

งานออก แบบสไตล์คลาสสิก ที่มีท่วงท่าของความประณีต อ่อนช้อยด้วยงานฝีมือชั้นเยี่ยม หรูหราสง่างามด้วยสเปซที่โอ่โถง และยังคงเป็นสไตล์ ในฝันของใครหลาย คนจวบจนปัจจุบัน

หัวใจหลักของการแต่งบ้านสไตล์ Modern Classic

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าการแต่งบ้าน Modern Classic จะมีทั้งความคลาสสิกและความโมเดิร์นอยู่ในตัว ดังนั้น อารมณ์และโทนสีในแต่งบ้านสไตล์นี้จะต้องสื่อความรู้สึกที่หรูหรา ทันสมัย และเต็มไปด้วยกลิ่นอายของบรรยากาศอ่อนช้อยงดงามในรูปแบบของการตกแต่งแบบกรีกและโรมันที่จะมีความโดดเด่น สะดุดตา ซึ่งเมื่อมองเห็นจะรู้ได้ทันทีว่านี่คือสไตล์ Modern Classic ซึ่งมีหัวใจหลักในการออกแบบดังนี้

1.สี
สีเป็นองค์ประกอบที่ทำให้การตกแต่งโดยรวมมีภาพที่ชัดเจนขึ้น สำหรับสีที่นิยมใช้ในการตกแต่งภายในสไตล์ Modern Classic นี้จะใช้สีที่มีความเรียบง่าย ไม่ฉูดฉาด ได้แก่ สีขาว สีดำ สีน้ำตาล สีเบจ สีน้ำตาลช็อกโกแล็ต สีเทา สีเงิน สีขาว และสีฟ้าอมเทา ซึ่งคุณสามารถเล่นกับสีสันเหล่าด้วยการใช้สีกับผนังห้อง เฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่งอื่น ๆ เพื่อสร้างสรรค์สไตล์การแต่งบ้านแบบ Modern Classic ที่สมบูรณ์แบบ

2.เฟอร์นิเจอร์
การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมจะช่วยเสริมบรรยากาศของการตกแต่งให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Modern Classic นี้จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีจุดเด่นเฉพาะตัว กล่าวคือ มีความเรียบง่าย แต่แฝงด้วยความทันสมัยอย่างโต๊ะกาแฟที่มีโครงสร้างเป็นสแตนเลสแบบโปร่ง หรือชุดโซฟาบุผ้าที่มีสีสันเรียบง่าย โดยควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีผิวสัมผัสและสีสันเข้ากับสไตล์การตกแต่งโดยรวม แต่ต้องสามารถบ่งบอกตัวตนถึงความเป็นสไตล์นี้ได้ชัดเจน

3.ของตกแต่ง
การแต่งบ้านสไตล์ Modern Classic นิยมใช้ลายเส้นที่มีความเรียบง่าย ร่วมกับการใช้ของตกแต่งที่มีความโดดเด่น ทันสมัย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อาทิ แจกันดอกไม้สวย ๆ ภาพวาดขนาดใหญ่บนผนัง หรือหมอนอิงลายเรขาคณิต รวมถึงโคมไฟแบบวินเทจและโคมไฟรูปทรงเรขาคณิต เช่น โคมไฟทรงกลม โคมไฟทรงรี หรือโคมไฟทรงสี่เหลี่ยม เป็นต้น โดยควรเลือกให้กลมกลืนไปกับ Mood & Tone ของการตกแต่งโดยรวม

4.พื้น
เนื่องจากการแต่งบ้าน Modern Classic เป็นการผสมผสานรสนิยมการตกแต่งที่หลากหลายให้ออกมาลงตัว สำหรับวัสดุปูพื้นจึงต้องมีความเป็นกลางระหว่างทั้งสองสไตล์และต้องสามารถเชื่อมความคลาสสิกเข้ากับความทันสมัยได้ดี โดยปกติแล้ว สำหรับบ้านสไตล์ Modern Classic มักนิยมใช้เป็นพื้นไม้ที่มีโทนสีอบอุ่นและแต่งด้วยพรมสีอ่อน อาทิ พรมเบอร์เบอร์ พรมหนังสัตว์ขนาดใหญ่ พรมป่านศรนารายณ์ เป็นต้น

แบบบ้านสไตล์คลาสสิก

คำจำกัดความเรื่องความสวยงาม เป็นมุมมองที่ไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละบุคคลเป็นสำคัญ อย่างเจ้าของบ้านเก่าสองชั้นหลังนี้ที่หลงใหลในเส้นสาย และองค์ประกอบที่มีความคลาสสิก แม้กาลเวลาจะหมุนผ่านไปนานแค่ไหน จิตใจก็ยังยึดอยู่ กับความชื่นชอบที่ฝังแน่น บ้านที่อยู่อาศัยจึง เป็นดั่งสถานที่บ่มเพาะเรื่องราว บ่งบอกความเป็นตัวตนได้อย่างชัดเจน โดยที่ไม่จำเป็นต้อง รอการอนุมัติจากใคร

อาคารหลังคาแบนด้านหน้าที่เห็นอยู่ คือ โรงจอดรถประตูอัตโนมัติ แลดูมีความทันสมัยและเข้ากับยุคสมัยที่ต้องการทั้งความปลอดภัย ความสะดวกสบายในการใช้งาน เพราะไม่ต้องลงจากรถมาเปิดประตู แค่กดรีโมทนิดเดียวประตูก็เปิดออกต้อนรับการกลับสู่บ้านโดยทันที

ประตูจอดรถแบบเปิดขึ้นด้านบน นอกจากประหยัดพื้นที่ในการเปิดปิดแล้ว ยังเปรียบเสมือนปราการที่ช่วยป้องกันความเป็นส่วนตัวให้กับภายในบ้านด้วย ด้วยบานที่ปิดทึบจึงพรางสายตาจากผู้คนที่สัญจรผ่านไปผ่านมา ไม่ให้มองเข้ามาเห็นโลกส่วนตัวที่ต้องการรักษาไว้ บ้านหรู

โรงจอดรถของบ้านหลังนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ที่เห็นมาจากด้านหน้าเท่านั้น ภายในยังมีโรงจอดรถเฉพาะกิจแอบไว้สำหรับเก็บรถคลาสสิกสุดรักสุดหวงของเจ้าของบ้านด้วย โครงสร้างเหล็กเปิดผนังแบบโปร่ง ๆ อารมณ์เหมือนเข้ามาในพิพิธภัณฑ์รถโบราณขนาดเล็ก ชื่นชมอย่างปลาบปลื้มก่อนเดินเข้าสู่ภายในบ้านทุกครั้ง

อาคารสองชั้นยกพื้นจากระดับดินขึ้นไปเพียง 2 ขั้นบันได ด้านหน้ามีระเบียงยื่นออกมาพร้อมกับหลังคาบดบังแดดกันฝน กระเบื้องลอนโค้งมนแบบดั้งเดิม มีเชิงชายไม้ฉลุติดเอาไว้เพิ่มความอ่อนช้อยงดงาม ประกอบกับเสาไม้สี่ต้นที่คอยรับน้ำหนัก บรรยากาศจึงเหมือนกำลังย้อนยุคกลับไปในหลายสิบปีที่แล้ว

ภายในบ้านค่อนข้างมีความเรียบร้อยและสง่างาม ด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่นำมาตกแต่งดีไซน์แบบโบราณและคลาสสิก ทำจากไม้แท้จริงเป็นส่วนใหญ่ บางชิ้นมีการสานทำให้เกิดลวดลายที่น่าหลงใหลมากยิ่งขึ้น มีการผสมผสานฟังก์ชันแบบสมัยใหม่เข้าไป เปิดโปร่งพื้นที่แบบ Open Plan เชื่อมโยงห้องนั่งเล่นกับห้องรับประทานอาหารเข้าด้วยกัน ทำให้ภายในบ้านดูโล่งกว้างมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังใช้โทนสีสว่างในการตกแต่งผนัง เพดานและพื้น ยิ่งเสริมให้เฟอร์นิเจอร์ไม้ดูผ่อนคลายกว่าเดิมตกแต่งบ้านเดิมหลังเก่า

ชั้นล่างไม่เน้นการใช้เครื่องปรับอากาศ เพราะได้ทำการออกแบบช่องเปิดรับลมไว้อย่างพอเพียง ประตูไม้บานคู่ เปิดรับลมจากด้านหน้า และมีประตูไม้หลังห้องที่คอยกระตุ้นการหมุนเวียนอากาศภายในบ้านให้ลื่นไหลอยู่อย่างสม่ำเสมอ

ฝ้าเพดานชั้นล่างเน้นแบบเรียบไร้รอยต่อ ส่วนฝ้าเพดานชั้นบนนั้นใช้งานไม้ติดตั้งตามทรงจั่ว เพื่อเพิ่มความปลอดโปร่งให้กับพื้นที่พักผ่อน จัดให้มีห้องนั่งเล่นบนชั้นสองอีกหนึ่งห้องไว้รองรับการใช้งานของสมาชิกในครอบครัว หรือใช้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ไว้นั่งพักก่อนแยกย้ายกันเข้าห้องนอนห้องนอนเพดานสูง

ห้องนอนที่มีการตีฝ้าตามแนวจั่ว เพื่อเพิ่มความสูงโปร่งให้แก่ห้อง การใช้ฝ้าไม้เป็นวัสดุตกแต่งจะช่วยลดทอนความรู้สึกเวิ้งว้างได้ไม่มากก็น้อย เพราะเมื่อเอนกายลงนอนบนเตียงระยะความสูงจากผู้นอนจนถึงฝ้าบนสุดค่อนข้างเยอะ งานไม้สีน้ำตาลจะช่วยลดระยะความห่างนั้นได้ ด้วยสีน้ำตาลที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและใกล้ชิดกับธรรมชาติ