บ้านไม้โมเดิร์น

บ้านไม้โมเดิร์น

บ้านไม้โมเดิร์น

บ้านไม้โมเดิร์น

บ้านไม้โมเดิร์น หากใครเคยไปเยือนประเทศออสเตรีย จะพบว่าสภาพภูมิอากาศจะค่อนข้างหนาวเย็น แดดน้อยมีฝนปรอย ๆ ทั้งวัน บรรยากาศอึมครึม ผู้คนที่นิยมใส่เสื้อโค้ททึม ๆ เมื่อรวมเข้ากับสถาปัตยกรรมยุคเก่ายิ่งทำให้รู้สึกหดหู่ไม่สบายใจได้ง่าย การสร้างบ้านที่เติมความ “รู้สึกอบอุ่น” และให้ “สัมผัสความอุ่น” ด้วยดีไซน์โมเดิร์นผสมงานไม้จึงเป็นอีกทางเลือกที่เราจะเห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนเช่นบ้านหลังนี้ที่ดูปุ๊บประทับใจปั๊บ น่าลองนำมาปรับใช้กับบ้านเราดูนะครับ website

บ้านโมเดิร์น สวยๆ

ที่ตั้งของบ้านอยู่ใน Elsbethen ชานเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ของ Salzburg ภูมิประเทศของพื้นที่ก่อตัวเป็นเชิงเขามีภูมิทัศน์ภูเขาโดยรอบ ทำให้เกิดความลาดชันเล็ก ๆ จากตะวันออก-ตะวันตก บ้านจึงออกแบบให้ไหลลงไปตามลักษณะของพื้นที่  ส่วนแนวคิดในการออกแบบหลัก ๆ เจ้าของบ้านต้องการ “สถาปัตยกรรมในชีวิตประจำวัน” ที่มีความเรียบง่าย ความเป็นส่วนตัว บรรยากาศที่เปิดกว้างและสว่างไสว ตลอดจนการเชื่อมต่อที่ลื่นไหลระหว่างภายในและภายนอก จึงเป็นที่มาของบ้านไม้ปนคอนกรีตหลังคาจั่วตกแต่งระแนงไม้ที่เรียบ ๆ แต่ชวนให้ประทับใจเดอะวิลล่า รัตนาธิเบศร์

บ้านไม้โมเดิร์น

หนึ่งโจทย์ที่เจ้าของบ้านต้องการ คือ ทางเข้าที่มีหลังคา ทำให้ด้านหน้ามีคานคอนกรีตยื่นออกมาคลุมประตูทางเข้า ลักษณะคล้ายลานบ้านที่มีการป้องกันซึ่งสัมพันธ์กับถนน ให้ทั้งความเป็นส่วนตัวและความคล่องตัวผ่านเฉลียงและระเบียง พื้นที่ใช้สอยทั้งหมดสามารถโต้ตอบกับพื้นที่เปิดโล่งที่ปลอดภัยนี้ และยังสร้างการเชื่อมต่อกับสวนทางด้านทิศใต้ นอกจากนี้หน้าบ้านยังมีม้านั่งไม้บิลท์อินติดผนัง ทำให้รู้สึกเป็นมิตรเหมือนบ้านญี่ปุ่นที่มักมีที่นั่งให้เพื่อนบ้านในชุมชนได้แวะมานั่งพักมุมกาแฟในบ้านสไตล์ Cafe

แปลนอาคารเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมและมีหลังคาลาดเอียงสอดคล้องกับบ้านโดยรอบ การตกแต่งภายในค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับบ้านในโซนนี้เพราะ บ้านเต็มไปด้วยงานไม้ทั้งพื้น ผนัง เพดาน โอบอุ้มบ้านด้วยสัมผัสความอบอุ่น ผนังกระจกขนาดใหญ่ที่ดึงแสงเข้ามาได้มากขึ้น แม้จะเป็นฤดูหนาวแต่บ้านไม่อึมครึม

สเปซภายในเป็นพื้นที่เปิดโล่งทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ชั้นล่างเป็นแปลนแบบ open plan เชื่อมโยงห้องครัว เตาผิง พื้นที่รับประทานอาหาร และห้องโถงเข้าด้วยกัน เพื่อการใช้ในชีวิตประจำวันที่สะดวกและใกล้ชิดกันมากขึ้น ในห้องนั่งเล่นยังมีเปลญวณผูกเอาไว้นอนเล่นดูวิวนอกบ้านในวันที่สภาพอากาศไม่เป็นใจด้วย

บ้านไม้โมเดิร์น

เหนือมุมทานข้าวเลยมาถึงจุดนั่งเล่น จะเจาะเพดานขึ้นเป็นโถงสูง ซึ่งส่งผลในการใช้งานที่เป็นประโยชน์กับบ้านในหลายๆ ประการ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อปฏิสัมพันธ์ระหว่างชั้นล่างและชั้นบนให้สื่อสารกันได้แบบไม่ขาดตอน การเปิดพื้นที่ให้อากาศร้อนลอยตัวขึ้นและระบายออกจากตัวบ้านได้ดีในฤดูร้อน และยังสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวของบ้านไปพร้อมกัน ด้วยการติดตั้งเชือกใยยักษ์เป็นพื้นที่นั่งเล่นเหมือนสนามเด็กเล่นเข้าไปในช่องว่างนั้น ทำให้บ้านมีความน่าสนุก

ชั้นบนก็ยังคง concept งานไม้ทำให้อุ่นเท้าเวลาเดิน ในชั้นนี้ก็มีเตาผิงขนาดใหญ่ติดตั้งอยู่ พร้อมกับเพิ่มความสว่างผ่านช่องแสง skylight บนหลังคา ทำให้บ้านสว่างไสว มองไปทางไหนก็รู้สึกว่าบ้านดูผ่อนคลายเป็นมิตร น่าอยู่ในทุกฤดูกาล

บริเวณฟาซาดระแนงไม้อยู่ตรงกับฟาซาดไม้ระแนงที่ช่วยพรางสายตาผู้คนที่ผ่านไปมาบนถนน ส่วนผนังชั้นในเป็นบานประตูกระจกใสเต็มพื้นที่ผนังเฉียงเอียงไปตามรูปร่างหลังคา ห้องนอนจึงได้รับทั้งแสงธรรมชาติ วิวในมุมสูง เพิ่มบรรยากาศที่น่าอยู่แม้อากาศข้างนอกจะหนาวเหน็บเต็มไปด้วยหิมะ หมอก ฝน  ก็ไม่ทำให้จิตใจหดหู่ซึมเศร้าไปกับอากาศ

บริเวณฟาซาดระแนงไม้อยู่ตรงกับฟาซาดไม้ระแนงที่ช่วยพรางสายตาผู้คนที่ผ่านไปมาบนถนน ส่วนผนังชั้นในเป็นบานประตูกระจกใสเต็มพื้นที่ผนังเฉียงเอียงไปตามรูปร่างหลังคา ห้องนอนจึงได้รับทั้งแสงธรรมชาติ วิวในมุมสูง เพิ่มบรรยากาศที่น่าอยู่แม้อากาศข้างนอกจะหนาวเหน็บเต็มไปด้วยหิมะ หมอก ฝน  ก็ไม่ทำให้จิตใจหดหู่ซึมเศร้าไปกับอากาศ

บ้านไม้โมเดิร์น

แนวคิดทางสถาปัตยกรรมของบ้านเขตหนาวในอดีต จะก่อผนังปิดบ้านทึบเกือบทั้งหลัง มีช่องแสงขนาดเล็ก ๆ เพื่อรักษาอุณหภูมิภายในบ้าน ไม่ให้อากาศเย็นที่รุนแรงเข้าไปภายใน ซึ่งอาคารแบบนี้จะสัมพันธ์กับความทึบ มืด และชื้น เนื่องจากบ้านขาดพื้นที่รับแสง อาจทำให้การอยู่อาศัยไม่สบายและรู้สึกหดหู่ได้ง่าย

ต่อมาในยุคใหม่จึงมีการปรับเปลี่ยนจากผนังทึบมาเป็นกระจกใส เพื่อเป็นช่องทางรับแสงและควบคุมอุณหภูมิในบ้านให้อุ่นขึ้น โดยที่บรรยากาศของบ้านยังสดชื่นสว่างขึ้นด้วย ทั้งนี้หาจะนำมาปรับใช้ในบ้านเขตร้อนจะต้องเลือกทิศทางติดผนังกระจกที่แดดไม่ส่องแรงในช่วงบ่าย และใช้กระจกแบบตัดแสงหรือมีคุณสมบัติสะท้อนแสง เป็นต้น

บ้านไม้โมเดิร์น เหมือนกล่องลับ บรรจุความสุขไว้ภายใน

บ้านโมเดิร์น

Fusiliers Cottage เป็นกระท่อมเก่าใน Battery Point เป็นชานเมืองของเมืองโฮบาร์ต รัฐแทสเมเนีย ประเทศออสเตรเลีย สร้างขึ้นตั้แต่ปี 1840 สำหรับ Angus McLeod นักดนตรีและทหารชาวสก็อต McLeod อาคารเดิมสร้างในยุค Pre-separation Colonial (ประมาณช่วงปีค.ศ. 1836-1850) เป็นกระท่อมที่ประกอบด้วย บ้านไม้

หินบะซอลต์และหินทราย ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แบบจอร์เจียนและสวนที่กว้างขวาง ซึ่งเปิดออกสู่ถนนทำให้เป็นแลนด์มาร์กยอดนิยมในท้องถิ่น แม้จะสร้างมานานแล้ว แต่สภาพภายนอกและภายในยังคงดูดี มีเอกลักษณ์ตามแบบท้องถิ่น ส่วนต่อเติมบ้านจึงเลือกส่วนประกอบวัสดุคล้ายๆ  กันคือ มีอิฐและไม้ เพียงแต่รูปลักษณ์นำเสนอเป็นทรงกล่องในสไตล์โมเดิร์น

อาคารใหม่ตั้งอยู่ภายในสวน มีขนาดเล็กกว่ากระท่อมเดิม รูปลักษณ์หลังคาเรียบ (flat slab) ความสูงของอาคารและอยู่ในตำแหน่ง อยู่ในระดับที่ออกแบบมาให้ยังสามารถมองเห็นวิวของกระท่อมจากถนน Hamden และ Waterloo Crescent ฟาซาดของส่วนต่อขยายใหม่ได้รับการออกแบบเพื่อให้ครอบครัวมีโอกาสเลือกทั้งความเป็นส่วนตัว

และเปิดบ้านของพวกเขาไปยังจุดที่ต้องการ โดยทำผนังลักษณะ 2 ชั้น มีประตูประตูกระจกชั้นใน และฟาซาดเป็นฉากกั้นระแนงไม้ ในช่วงที่ต้องการความส่วนตัวก็ปิดผนังไม้ หากต้องการเปิดชมสวนรับอากาศดี ๆ ก็เลื่อนฟาซาดเปิดประตูกระจก ทำให้สามารถเปลี่ยนวิธีที่กระท่อมมีปฏิสัมพันธ์กับถนนและสวนได้ตามใจ

บ้านโมเดิร์น

อนดนตรีจากที่บ้าน เช่นเดียวกับ McLeod เจ้าของคนใหม่ ที่ต้องการรวมธุรกิจและครอบครัวไว้ในที่เดียวกัน เมื่อเข้ามาอยู่จึงต้องการเก็บอาคารเดิมที่ยังใช้ได้เอาไว้ แล้วมอบหมายให้สถาปนิก Bence Mulcahy ออกแบบส่วนต่อขยายแบบร่วมสมัยสำหรับเป็นพื้นที่ใช้สอยของครอบครัว ดูเผิน ๆ เหมือนกล่องไม้ขนาดใหญ่ที่โอบล้อมพื้นที่ชีวิตไว้ข้างใน

ภายในเลือกใช้งานไม้ยูคาลิปตัส และฉากกั้นภายนอกทำจากไม้ Hydro อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งนำมาจากพื้นทะเลสาบ Murchison ในชายฝั่งตะวันตกอันห่างไกลของแทสเมเนีย ที่ซึ่งไม้จะถูกนำไปแช่อยู่ใต้น้ำเป็นเวลาสี่สิบปี เพื่อเป็นการรักษาเนื้อไม้ตามภูมิปัญญาท้องถิ่น การใช้ไม้แทสเมเนียนที่มีรายละเอียดประณีตและโทนสีที่ละเอียดอ่อนจะช่วยเพิ่มความรู้สึกอบอุ่น ลดความรู้สึกเย็นและค่อนข้างแข็งกระด้างของแผ่นหิน bluestone ที่เป็นวัสดุดั้งเดิมของ Fusilier Cottage

ในโซนนี้จะประกอบไปด้วย ห้องครัว ห้องทานอาหาร และห้องนั่งเล่นที่มีโถงทางเดินเชื่อมต่อไปยังบ้านเก่าที่ใช้สำหรับต้อนรับแขก ทำงาน และนอนพักผ่อน การแยกโวนใช้งานให้เป็นสัดส่วนแบบนี้ ทำให้สมาชิกในบ้านรู้สึกว่าการใช้ชีวิตสะงดวกขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกรุกล้ำเส้นเขตแดนความเป็นส่วนตัวเมื่อมีผู้คนมาติดต่องาน

บ้านโมเดิร์น

บ้านไม้ที่ถูกตัดเป็นเส้นเล็ก ๆ นำมาตีประกบบนผนัง ทำให้บ้านดูมีความโมเดิร์น แตกต่างจากการตีไม้ฝาแบบตีเกล็ดหรือตีซ้อนทับกัน ที่จะนำเสนอความรู้สึกแบบร่วมสมัยมากกว่าภูมิปัญญาโบราณในการรักษาเนื้อไม้ให้สามารถคงอยู่ใช้งานได้นาน ๆ โดยไม่ใช้สารเคมี มีหลากหลายวิธี อย่างในประเทศญี่ปุ่นจะมีสิ่งที่เรียกว่า

การถนอมไม้ด้วยไฟหรือ SHOU SUGI BAN หรือ YAKISUGI เป็นเทคนิคการเผาผิวไม้โดยใช้ ‘เปลวไฟ’ ในการเปลี่ยนแปลงสภาพและสารเคมีภายในไม้ ผิวไม้จะเป็นสีดำเข้ม เพิ่มคุณสมบัติในการป้องกันศัตรูทำลายเนื้อไม้ สำหรับบ้านเราจะมีวิธีการแช่ไม้ในน้ำช่วยป้องกันรักษาเนื้อไม้ที่แช่นั้นให้พ้นจากการผุและการเจาะทำลายของแมลงได้ดี ที่เป็นอย่างนั้น เพราะ การแช่ไม้ในน้ำเป็นการให้น้ำทำการเจือจางแป้งและน้ำตาล หรือทำลายให้หมดไป เมี่อไม่มีแป้งและน้ำตาลในเนื้อไม้ ปลวก มอด ก็ไม่เจาะเข้าไปหาอาหารกินนั่นเอง